ที่ปรึกษาจะต้องดำเนินการ ดังนี้
1) รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินประสิทธิภาพการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำหรือพื้นที่คุ้มครองในรูปแบบต่างๆ ของหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกประเทศ รวมถึงข้อมูลเบื้องต้นของพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเสนอเป็นพื้นที่แรมซาร์ไซต์ในอนาคต
2) ศึกษาเปรียบเทียบวิธีการในการประเมินประสิทธิภาพการบริหารจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำต่างๆ เพื่อคัดเลือกวิธีการที่เหมาะสมในการประเมินประสิทธิภาพการบริหารจัดการแรมซาร์ไซต์ โดยอย่างน้อยต้องใช้เครื่องมือ
Ramsar site Management Effectiveness Tracking Tool หรือ R-METT ที่ได้รับการรับรองจากการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ สมัยที่ 12
3) ดำเนินการสำรวจสถานภาพของพื้นที่ชุ่มน้ำในภาพรวม ด้านกายภาพ ชีวภาพ เคมี ด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยรอบพื้นที่ ด้านการใช้ประโยชน์ และสถานการณ์การคุกคามพื้นที่ พร้อมจัดทำขอบเขต พิกัด
และแนวกันชน ของพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งมีศักยภาพในการเสนอเป็นแรมซาร์ไซต์ในอนาคต อย่างน้อย 2 พื้นที่
4) ดำเนินการสำรวจสถานภาพของพื้นที่แรมซาร์ไซต์ ทั้ง 14 แห่ง ในด้านกายภาพ ชีวภาพ การใช้ประโยชน์เพื่อประกอบการประเมินประสิทธิภาพการบริหารจัดการ
พื้นที่แรมซาร์ไซต์ ทั้ง 14 แห่ง ของประเทศไทย โดยใช้วิธีการที่ได้รับการคัดเลือก และ R-METT จากข้อ 1.4.2
5) จัดประชุมระดมความคิดเห็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยกระบวนการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการพื้นที่แรมซาร์ไซต์ ทั้ง 14 แห่ง ของประเทศไทย เพื่อแสดงความคิด
เห็นต่อผลการศึกษาในข้อ 1.4.4 และจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการพื้นที่แรมซาร์ไซต์
6) ดำเนินการจัดทำ Ramsar Information sheet ตามแบบฟอร์มของอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ ของแต่ละพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งมีศักยภาพในการเสนอเป็นแรมซาร์ไซต์ในอนาคต อย่างน้อย 2 พื้นที่ เป็นภาษาอังกฤษ
7) จัดทำแผนการจัดการพื้นที่แรมซาร์ไซต์ของประเทศไทยในปัจจุบัน จำนวน 14 แห่ง และพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งมีศักยภาพในการเสนอเป็นแรมซาร์ไซต์ในอนาคต อย่าง
น้อย 2 พื้นที่
8) จัดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อผลการศึกษาจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 1 ครั้ง จำนวน 100 คน และนำเสนอผ่านกลไก/กระบวนการที่มีอยู่ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น คณะทำงานวิชาการพื้นที่ชุ่มน้ำ เป็นต้น เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงการจัดทำรายงานการศึกษาให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วน
9) จัดทำแผนที่แสดงขอบเขต แนวกันชน ข้อมูลด้านกายภาพ ของพื้นที่แรมซาร์ไซต์ 14 แห่ง และพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งมีศักยภาพในการเสนอเป็นแรมซาร์ไซต์ในอนาคต
อย่างน้อย 2 พื้นที่ มาตราส่วน 1:50,000 หรือละเอียดกว่าตามความเหมาะสมของพื้นที่
10) จัดทำฐานข้อมูล ซึ่งแสดงที่ตั้ง ขอบเขต แนวกันชน สถานภาพทางกายภาพ ชีวภาพ ข้อมูลสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินของพื้นที่แรมซาร์ไซต์ ในระบบภูมิสาร
สนเทศให้มีความทันสมัยและเป็นข้อมูลปัจจุบันโดยจัดทำตามมาตรฐานภูมิสารสนเทศกลางของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
11) จัดทำ Website เผยแพร่ข้อมูลการศึกษา ที่สามารถเชื่อมโยงกับกลไกการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม (chm-thai.onep.go.th)